7/19/2554

นีนา ซีโมน ; หยาดน้ำตาเคล้าเสียงดนตรี

       ในวันที่สหรัฐอเมริกากำลังจะได้ประธานาธิบดีคนใหม่ หลายคนจับตามองเหตุการณ์นี้ด้วยความใคร่รู้ เพราะ หนึ่งนั้นคือหญิง....ส่วนอีกหนึ่งนั้นเล่า...คือผู้ชายผิวสี....
      
       ผิวสีที่เมื่อไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา บนแผ่นดินอเมริกาเคยระอุด้วยการเหยียดผิว ด้วยความรุนแรงต่างๆ นานา ก่อนสิทธิและเสรีภาพจะถูกเรียกขาน ก่อนความเสมอภาคจะเท่าเทียมเช่นปัจจุบัน....
      
       เสียงเพลงที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อการต่อสู้และเรียกร้องความเสมอภาคของผู้คน บนดินแดนเสรี แผดร้องไปทั่ว ในช่วงเวลานั้น คงไม่มีใครไม่รู้จักเธอผู้นี้.... ศิลปินหญิงผิวสีเชื้อสายแอฟริกัน อเมริกันนาม นีนา ซีโมน ( nina simone)
      
       เธอประฌามความโหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรมของผู้คนในประเทศตัวเองด้วยบทเพลง Misissippi Goddam ที่เธอแต่งขึ้นในปี 1963 และร้องเองด้วยอารมณ์ที่อัดแน่นไปด้วยความโกรธแค้นหลังจากวันที่เกิดเหตุการณ์วางระเบิดโบสถ์ Birmingham ในรัฐ
       อลาบามา ส่งผลให้เด็กผิวสีเสียชีวิตในเหตุการณ์นั้นถึง 4 คน เธอใช้เสียงของเธอแผดร้องเพื่อกู่ก้องร้องหาความยุติธรรม ในยุคที่ สีของผิวยังเป็นสิ่งสำคัญในแผ่นดินแห่งเสรีภาพ
      
       นีนา ซีโมน มีชื่อเดิมว่า ยูนิส แคทลีน เวย์มอน Eunice Kathleen Waymon ในจำนวนพี่น้อง 7 คน เธอนับเป็นคนที่ 6และเกิดเมื่อปี 1933 ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่นอร์ธ แคร์โรไลนา north carolina
      
       จากครอบครัวที่ยากจน นีนามีโอกาสได้เรียนเปียโนตั้งแต่อายุ 4 ขวบด้วยความช่วยเหลือของครูผู้สอน ด้วยการตั้งทุนสนับสนุนยูนิส เวย์มอนขึ้นมา จึงทำให้เธอมีโอกาสได้เรียนหนังสือและเรียนเปียโนมาได้อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนดนตรี จูลลิอาร์ด Julliard School of music แห่งนิวยอร์ก
      
       หลังจากนั้นเธอพยายามสมัครเข้าเรียนเปียโนต่อที่ สถาบันดนตรีชั้นสูง เคอร์ติส
       The Curtis Institute of Music ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นนักเปียโนอาชีพ แต่...เธอก็ถูกปฏิเสธ มิใช่เธอไม่เก่ง แต่....เพราะเธอมีผิวสี!!
      
       ใช่ว่าเธอจะย่อท้อ เธอหันกลับไปทำงานเป็นผู้ช่วยครูสอนเปียโน และในช่วงเวลาเดียวกัน เธอก็ไปสมัครทำงานในบาร์ไอริชที่ แอตแลนติค ซิตี้ ,นิวเจอร์ซี่. เธอเริ่มต้นร้องเพลงด้วยการเปลี่ยนจากชื่อเดิม มาเป็นนีนา ซีโมน นับแต่นั้น....
      
       เธอเริ่มบันทึกแผ่นเสียงและเริ่มเป็นรู้จักของใครหลายคนมากขึ้น ด้วยผลงานเพลง
       I love you Porgy ซึ่งเป็นเพลงจากการแสดงโอเปร่า Porgy and bess หลังจากนั้นชื่อเสียงของเธอก็เริ่มแพร่หลายในหมู่นักฟังเพลงมากขึ้น....
      
       เธอนิยามการร้องเพลงและการเล่นดนตรีของเธอว่าเป็น คลาสิกของคนผิวดำ ซึ่งเธอบอกว่า ดนตรีแจ๊ซคือการเรียกดนตรีของคนผิวขาว การถูกปฏิเสธจากสถาบันดนตรีชั้นสูงของอเมริกาประกอบเป็นช่วงเวลาที่สถานการณ์ประท้วงผิวสีเข้มข้นมากขึ้นทุกขณะ นีนา ซีโมนจึงกระโดดเข้าร่วมเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพด้วยเสียงเพลงอย่างจริงจัง
      
       แม้เวลาที่ผ่านมา จะค่อยๆ ทำให้ความรุนแรงในการเหยียดผิวที่อเมริกาบรรเทาเบาบางลงไปทุกขณะ ประกอบกับตัวเธอเริ่มเบื่อหน่ายสังคมอเมริกัน เธอจึงคิดจะย้ายไปอยู่แผ่นดินอื่น ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจย้ายถิ่นไปอยู่หลายประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศส
      
       เธอได้รับรางวัลเกียรติยศทางดนตรีมากมายจากหลายสาขา อย่างเช่น เธอได้รับปริญญาทางด้านดนตรีและมนุษยชน จาก University of Massachusetts และ Malcolm X college และเธอยังเสนอให้คนเรียกเธอว่า ดร.นีนา ซีโมนอีกด้วย
      
       เธอเสียชีวิตในเดือนเมษายน ปี 2003 ที่บ้านพักของเธอเองทางตอนใต้ของฝรั่งเศสเพียงสองวันหลังการจากไปของเธอด้วยวัยชรา นีนา ซีโมนก็ได้รับเกียรติจาก Curtis Institute มอบประกาศนียบัตรแก่เธอ ข้อสำคัญที่นี่คือสถาบันที่เคยปฏิเสธเธอในอดีต....
      
       ถือได้ว่านีนา ซีโมนเป็นศิลปินหญิงที่มีชีวิตค่อนข้างโลดโผนคนหนึ่ง ไม่ว่าจะอย่างไร เธอกลายเป็นสัญลักษณ์ของนักต่อสู้เพื่อเสรีภาพ สัญลักษณ์ของศิลปินผู้ทุ่มเทชีวิตให้แก่งานอย่างแท้จริง และนอกจากนั้น เธอยังกลายเป็นสัญลักษณ์ของคนๆ หนึ่งที่ไม่ยอมอ่อนข้อต่อสิ่งที่ขัดแย้งกับความเชื่อของตัวและเธอกลายเป็นผู้หญิงผิวสีผู้มีความภาคภูมิใจในชาติกำเนิดของตัว และมีความทัดเทียมกับมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้.   


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น