อิกคิวซัง
โดย นพวรรณสิริเวชกุล
เผยแพร่ครั้งแรกที่ www.manager.co.th / multimedia / 2552
.....คนเรามีกิเลสไม่รู้จบสิ้น ทั้งเงินทอง ชื่อเสียง
และชีวิต ทำให้คนเราเหยียบหัวคนอื่นเพื่อให้ได้มากขึ้น
แต่คนที่ไม่รู้จักความพอเพียงนี่แหละเป็นคนที่มีความทุกข์ยิ่งกว่าใคร
ไม่ว่าจะแต่งกายประดับประดาหรูหราสักแค่ไหน กินอาหารอร่อยจนอิ่มท้องสักเพียงใด
จิตใจก็เป็นเพียง คนตาบอดผู้กระหาย เท่านั้น...
นี่เป็นความตอนหนึ่งจากหนังสืออิกคิวซัง ตัวจริง
ที่เขียนโดยมาซาโอะ โคเงรุ และแปลเป็นภาษาไทยโดยพรอนงค์ นิยมค้า ค่ะ
หลายคนคงเคยชมภาพยนตร์การ์ตูนอิกคิวซังกันมาบ้างนะคะ
ซ้ำปัจจุบันนี้ยังนำกลับมาฉายใหม่ให้ได้ดูกันอีกด้วย หลายคนที่ชมอิกคิวซัง
คงติดใจในความน่ารักและชาญฉลาดของตัวการ์ตูนตัวนี้ และเชื่อว่าหลายคนคงทราบว่า
อิกคิวซังนั้น มีตัวตนจริง เผลอๆ
อาจเคยไปเยือนวัดที่อิกคิวซังเคยจำวัดอยู่แล้วด้วยนะคะ
ดิฉันหยิบหนังสืออิกคิวซัง
ตัวจริงขึ้นมาอ่านหลังจากเก็บไว้หลายปี หนังสือที่ว่านี้เป็นหนังสือภายใต้โครงการคันฉ่องส่องญี่ปุ่นค่ะ
(Japanese Mirrors) หนังสือในโครงการนี้มีหลายเล่มที่น่าสนใจ
โดยเฉพาะคนที่สนใจเรื่องราวของคนญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นคุณหมอนักสู้ โนกุจิ ฮิเดโยะ
หรือ หนังสือชีวประวัติของนักเขียนอย่าง มิยาซาวะ เคนจิ ค่ะ
สำหรับหนังสืออิกคิวซังเล่มนี้
เป็นชีวประวัติของพระเถระในนิกายเซนที่มีชื่อเสียงที่สุด
ส่วนใหญ่เรามักจะเรียกท่านว่า เณรน้อยเจ้าปัญญา อิกคิวซัง สมญานามที่แท้จริงของท่านก็คือ อิกคิวโซจุนหรือ
อิกคิวเซนจิ ค่ะ
ตามบันทึกกล่าวไว้ว่าอิกคิวซังเกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม ปี
1394 โดยนามแรกเกิดว่า เซนงิกุมารุ
มารดาของเซนงิกุมารุคือ เจ้าหญิงเทรุโกะ ธิดาของฟุจิวาระ
โดยได้รับการแต่งตั้งให้เป็น เจ้าจอมอิโยะแห่งจักรพรรดิโกะโคะมัตษุ แต่ด้วยความเข้าใจผิด
ทำให้พระนางต้องหนีออกจากวังเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและลูกในครรถ์
หลังจากคลอดโอรสอย่างปลอดภัยและอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งแล้ว
เมื่อเซนงิกุมารุอายุได้ 6 ปี
ท่านแม่ก็ปรารถนาจะให้ท่านชายน้อยได้ไปเล่าเรียนที่วัดและบวชเป็นพระในที่สุด
นับแต่นั้นชีวิตของท่านชายน้อยก็เปลี่ยนไปทันที
วัดแรกที่เซนงิกุมารุเข้าไปอาศัยอยู่คือ วัดยามาชิโระอังโคะกุ
แห่งเมืองเกียวโต หลังจากนั้น ก็ได้รับสมญาแรกว่า ชูเคน ซึ่งเป็นที่เลื่องลือในความฉลาดปราดเปรื่องในฐานะ
เณรน้อยเจ้าปัญญา
เมื่ออายุได้ 12 ปี ชูเคนก็ต้องไปศึกษาธรรมต่อที่วัดเทนริว
ที่สร้างขึ้นโดยโชกุนอาชิคางะ ทาคาอุจิและโชกุนอาชิคางะ ทาดะโยชิ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเซ่นสรวงดวงวิญญาณของจักรพรรดิโกะไดโกะ แต่ชูเคนอยู่ที่นี่ได้เพียงครึ่งปี ก็เกิดสิ้นศรัทธาเจ้าอาวาสองค์นี้
ชูเคนจึงตัดสินใจออกทางเดินทาง
กระทั่งไปพบหลวงพ่อที่เขาศรัทธาและศึกษาร่ำเรียนธรรมะกับหลวงพ่อท่านนี้
กระทั่งเกิดความลึกซึ้งกับเซน
ด้วยหลวงพ่อที่ชูเคนเลื่อมใสนั้น
มีวัตรปฏิบัติที่เรียบง่ายและอยู่อย่างสมถะ
หลวงพ่อสั่งสอนเรื่องหัวใจของเซนแก่ชูเคนอยู่เสมอ
ด้วยพระในนิกายเซนนั้นต้องปฏิบัติธรรมอย่างเข้มงวดเพื่อให้ บรรลุ
เมื่อบรรลุแล้วก็จะไม่มีกิเลส ไม่มีทุกข์ ไม่มีโลภ โกรธ หลง เหมือนท้องฟ้าไร้เมมฆหมอก
มีจิตใจที่สะอาดสดใสตลอดไป...
จากชูเคน
เณรน้อยที่บัดนี้เติบโตเป็นหนุ่มก็ได้รับสมญานามใหม่ว่า โซจุน
ซึ่งจุนคือหัวใจบริสุทธิ์ของเซน
เป็นหัวใจที่ไม่ยึดติดกับอะไรและไม่หลงอะไร...
หลวงพ่อได้จากโซจุนไป ทำให้พระหนุ่มเศร้าหมองอย่างหนักขนาดจะปลิดชีพตัวตาม
แต่แล้วเขาก็ตระหนักได้ว่า ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป
และได้เข้าเป็นศิษย์ของหลวงพ่อเซนอีกองค์หนึ่ง
กระทั่งเขาสามารถบรรลุหัวใจแห่งเซน.... ด้วยไม่ว่าเราจะเกิดมาจากไหน
คนเราก็มีชีวิตอยู่ต่อไปเพียงคนเดียว ... นับแต่นั้นพระหนุ่มโซจุน จึงได้รับสมญา
ว่า อิกคิว...
เมื่อหลวงพ่อถามความหมายของชื่ออิกคิว
พระหนุ่มกลับตอบเป็นกวีว่า..
ขอพักสักครู่หนึ่ง
ระหว่างทางจากโลกียะ สู่โลกุตระ
หากฝนจะตกก็ตกเถิด
หากลมจะพัดก็พัดเถิด....
อิกคิวมีลูกศิษย์มากมายและไม่เลือกฐานะของลูกศิษย์
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชื่อเสียงของท่านขจรขจายและถือเป็นพระเซนที่เข้าใจแก่นของเซนอย่างแท้จริง
ท่านละสังขารไปเมื่ออายุ 88 ปี ในปี ค.ศ.1481
ก่อนมรณภาพท่านได้สั่งเสียลูกศิษย์ให้ไม่ต้องทำอะไรเป็นพิเศษ เพียงขอให้ตั้งใจปฏิบัติธรรมตามปกติเท่านั้น
และขอให้สร้างรูปของตัวอิกคิวและบันทึกสิ่งที่ท่านได้ทำไว้เท่านั้น
กล่าวกันว่ารูปแกะสลักไม้อิกคิวนั้น
มีหนวดและผมของท่านบรรจุไว้จริงๆ ทุกๆ
ปีที่วัดแห่งนี้จะมีพิธีดื่มน้ำชาจากถ้วยใบใหญ่
เพื่อระลึกถึงอิกคิวซังอีกด้วย.....