5/09/2555

เพราะซีรีย์เกาหลี ทำให้รู้จัก...ราชินนีมินแห่งโชซอน


เพราะซีรีย์เกาหลีทำให้ฉันรู้จัก ราชินีมินแห่งโชซอน
เผยแพร่ครั้งแรก  / Manager multimedia Art & Culture ; กันยายน 2552

ยอมรับค่ะว่าหลายเดือนที่ผ่านมานี้ดิฉันติดซีรีย์ภาพยนตร์เกาหลีอยู่หลายเรื่องทีเดียว เริ่มต้นจากแดจังกึม และล่าสุดก็เห็นจะเป็นเรื่องลีซาน จอมบัลลังค์กู้แผ่นดิน และเรื่องฮง กิว ดอง จอมโจรโดนใจ ก่อนจะถลำตัวให้ติดซีรีย์เกาหลีมากไปกว่านี้...ดิฉันก็ตัดสินใจ ลองมองหาเรื่องราวประวัติศาสตร์เกาหลีมาอ่านดูบ้าง เพื่อคลายความสงสัยของตัวเอง ในเรื่องของตัวละครต่างๆ ในแต่ละเรื่อง...
อ่านไปอ่านมา ดิฉันก็มาสะดุดที่เรื่องของ ราชินีมินค่ะ..ถือได้ว่าพระนางได้รับการแต่งตั้งให้เป็นจักรพรรดินีองค์แรกของราชวงศ์โชซอนเลยทีเดียว

เหตุการณ์ในช่วงรัชสมัยของพระนางนั้นน่าสนใจมากค่ะ  พระนางเป็นมเหสีของกษัตริย์โกจง ที่ต่อมาได้รับการสถาปนาให้เป็นจักรพรรดิแห่งราชวงศ์โชซอน ผู้ทำให้แผ่นดินเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของเกาหลีเลยก็ว่าได้

                                                               รูปถ่ายราชินีมิน 

ตำแหน่งจักรพรรดิของกษัตริย์โกจงนั้น ได้รับการสถาปนาเพื่อเป็นเงื่อนไขในการสร้างจุดเปลี่ยนและการคานอำนาจของมหาอำนาจที่ครอบครองคาบสมุทรเกาหลีในยุคของพระองค์ แต่นั่นแทบจะไม่มีความสำคัญใดๆเลย เพราะกษัตริย์โกจงก็ยังถูกบีบคั้น กดดัน นับตั้งแต่พระองค์ขึ้นครองบัลลังก์
ด้วยความอ่อนแอของกษัตริย์โกจงที่อำนาจทุกอย่างตกอยู่ภายใต้การควบคุมของพระบิดาของพระองค์ เนื่องจากพระองค์ขึ้นครองราชย์ด้วยพระชนมายุเพียงแค่ 11 พรรษาเท่านั้น หลังจากนั้นเมื่อกษัตริย์โกจงมีชันษาได้  15 ปี พระบิดาก็ทรงเลือกมเหสีที่ดูคล้ายกับจะไม่มีพลังอำนาจใดๆ มาต่อรองได้ให้กับพระองค์ มินจายองเด็กสาววัย 16 ปีกำพร้าบิดาและมารดา บุคลลิกคล้ายจะหัวอ่อน รูปร่างงดงาม ถูกนำตัวเข้าวังหลวงเพื่อเป็นคู่อภิเษกสมรสในปี 1866

กษัตริย์โกจงด้วยวัยหนุ่มยังคงเพลิดเพลินกับการสมาคมและงานรื่นเริง ขณะที่ราชินีมินกลับใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่านหนังสือจำนวนมากมายไม่ว่าจะเป็นด้านประวัติศาสตร์ ปรัชญา วิทยาศาสตร์ แง่มุมต่างๆในการบริหารและปกครองประเทศ  แน่นอนคลังความรู้เหล่านี้ถูกสงวนไว้สำหรับขุนนางระดับสูงเท่านั้น

ไม่ใช่แต่จะคร่ำเคร่งกับหนังสือเท่านั้น พระนางยังแสวงหาความรู้ใหม่ๆ ด้วยการสนทนากับผู้มีความรู้ความสามารถ กระทั่งถือเป็นสตรีคนแรกของเกาหลีที่มีความรอบรู้หลายด้าน
เรื่องมันคงไม่มีอะไรน่าสนใจหรอกค่ะ หากเหตุการณ์เช่นว่านี้เกิดขึ้นในเวลาปกติ การแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความรัก ย่อมเกิดช่องว่างเสมอ แต่...เป็นเพราะทั้งคู่คือผู้ปกครองอาณาจักรโชซอนในสมัยนั้น สมัยที่ซีกโลกตะวันตกกำลังล่าอาณานิคม และญี่ปุ่นก็เริ่มต้นคุกคามแผ่นดินอื่น

ราชินีมินค่อยๆ ก้าวเข้ามาช่วยกษัตริย์โกจงบริหารประเทศ กระทั่งถูกวิพากษ์วิจารณ์จากขุนนางว่าพระนางทำตัวเสมือนบุรุษ แนวคิดเก่าอย่างพระบิดาของกษัตริย์โกจงย่อมขุ่นเคืองเรื่องทำนองนี้ไม่น้อย และยิ่งเพิ่มรอยร้าวมากขึ้นเมื่อ พระบิดาของโกจงไม่เห็นด้วยกับราชินีมินที่พยายามปรับเปลี่ยนวิธีคิดให้ทันสมัยเพื่อรองรับกับวิทยาการของโลกภายนอก

และยิ่งมีประเทศเพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่นที่จ้องจะเอาเปรียบทางการค้า ด้วยสนธิสัญญาคังฮวา แล้ว ทำให้ราชินีมินทราบดีว่าโชซอนนั้นเสียเปรียบญี่ปุ่นอยู่หลายขุมทีเดียว พระนางจึงส่งคนไปเรียนรู้ศึกษาความเจริญจากญี่ปุ่นเพื่อกลับมาพัฒนาประเทศที่ไม่พร้อมจะเปิดรับสิ่งใหม่ๆ  แน่นอนเรื่องเหล่านี้นำความไม่พอใจมาสู่ขุนนางหัวเก่าที่ค่อยๆ บ่มเพาะความเกลียดชังอย่างช้าๆ

ราชินีมินพระองค์นี้ ทรงแก้ไขสถานการณ์คับขันของบ้านเมืองได้หลายต่อหลายครั้ง พยายามช่วยเหลือไม่ให้โชซอนเสียเปรียบกับประเทศคู่ค้าอื่นๆ เมื่อญี่ปุ่นมีท่าทีที่ไม่เป็นมิตร ราชินีมินจึงหันไปผูกสมัครรักใคร่กับจีน อีกทั้งจีนยังส่งกำลังมาช่วยปราบกบฏในโชซอนอีกด้วย

ด้วยเหตุการณ์คับขันหลายครั้งหลายครา ราชินีมินได้ใช้สติปัญญาของตัวเองช่วยเหลือกษัตริย์โกจงแก้ปัญหาให้ลุล่วงได้ตลอด และด้วยความเฉลียวฉลาดของพระนางที่ต้องการบริหารประเทศให้ทันต่อสถานการณ์ต่างๆ ทั้งเชิงรุกและรับ ทำให้พระเจ้าโกจงหลงใหลและชื่นชมในมเหสีของตัวเองยิ่งนัก

                                               แต่แล้วพระนางก็ถูกสังหาร....

หลังจากที่ญี่ปุ่นได้รับชัยชนะจากสงครามจีน ญี่ปุ่นครั้งที่1 ราวต้นปี 1895 ราชินีมินเริ่มวิตกต่อความมั่นคงของประเทศตัวเอง พระนางพยายามติดต่อกับรัสเซียเพื่อให้ช่วยหาทางสกัดอำนาจของญี่ปุ่นที่มีท่าทีจะกลืนประเทศเกาหลี

ไม่ว่าที่ใด ย่อมมีหนอนบ่อนไส้แฝงตัวอยู่ด้วยเสมอในการณ์นี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือพระบิดาของกษัตริย์โกจงนั่นเอง เจ้าชายแดวอนทรงแค้นที่ราชินีมินถอดพระองค์ออกจากผู้สำเร็จราชการและทอนอำนาจลงอย่างแทบไม่มีเหลือ จึงหันมาร่วมมือกับญี่ปุ่น จ้องจะล้มอำนาจราชินีมิน!!

รุ่งอรุณของวันที่ 8 ตุลาคม 1895 หน่วยสังหารภายใต้คำสั่งของมิอูระ โกโร่ ผู้สำเร็จราชการจากญี่ปุ่น ได้บุกเข้าไปยังพระราชวังเคียงบุก และตรงเข้าสังหารราชีนีมิน ขณะมีพระชนม์ได้ 43 พรรษา
แน่นอนการสังหารไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การรวมพลระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีแปรพักตร์ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะฝ่าทหารอารักขาไปได้ พร้อมเข้าไปสังหารราชินีมินอย่างอุกอาจ และเมื่อแน่ใจว่าพระนางสิ้นแล้ว เหล่าผู้สังหารยังนำพระศพของพระนางไปที่ป่าสนในบริเวณด้านหน้าของตำหนักโอคลูลู และเผาเพื่อทำลายหลักฐาน กล่าวกันว่า เมื่อทำการเสร็จสิ้นกลุ่มสังหารจำนวน 56 คนถูกนำตัวไปไต่สวนที่ศาลเมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะถูกปล่อยตัวเมื่อพิพากษาว่าไม่มีความผิด เนื่องจากขาดพยานหลักฐาน
นับจากนั้นโชซอนหรือเกาหลีก็ประสบกับชะตาอีกมากมาย ในปี 1904 ญี่ปุ่นประกาศสงครามกับรัสเซียและรบชนะ นั่นจึงทำให้รัสเซียไม่อาจอยู่ในดินแดนเกาหลีได้อีกต่อไป และญีปุ่นก็ประกาศให้เกาหลีเป็นดินแดนในอารักขาของตนเองในปี 1905

อีกสองปีต่อมาพระเจ้าโกจงพยายามส่งตัวแทนไปเข้าร่วมประชุมสันติภาพโลก ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อขอความช่วยเหลือจากประเทศอื่นๆ แน่นอนญี่ปุ่นพยายามขัดขวางแต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ ชาวเกาหลีจึงมีโอกาสแถลงเรื่องของพวกเขาต่อชาวโลกผ่านทางหนังสือพิมพ์ในเวลานั้นเหตุการณ์ครั้งนั้นส่งผลให้พระเจ้าโกจงถูกบีบให้ลงจากบังลังก์ด้วยน้ำมือของญี่ปุ่น และทำให้ญี่ปุ่นถือสิทธิ์ในการปกครองเกาหลียาวนานต่อมากระทั่งแพ้สงครามโลกครั้งที่สอง.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น